ได้มา 6 ล้านบ้านยังเหมือนเดิมไร้การซ่อมแซม ‘น้อยเตย’ หนูน้อย 4 ขวบ เล็งซื้อบ้านใหม่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือรีรัมย์ น้องเตย 4 ขวบ ด.ญ.เลี้ยงย่าตาบอด ผ่านเกือบเดือน บ้านยังไม่ได้ซ่อม ผงะที่อยู่อาศัยปัจจุบัน เป็นของหลายปู่ ครูอุ้ม เตรียมหาซื้อที่ใหม่ได้สร้างบ้านได้อยู่ยาวมีความสุข8 ก.ค. 66 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี น.ส.พัชรินทร์ เอสะตี หรือ “ครูอุ้ม” อายุ 34 ปี ครูโรงเรียนบ้านมะขามทานตะวัน ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์
ถ่ายคลิปขณะ ด.ญ.สุธีมมนต์ จินดาศรี หรือ น้อยเตย อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ลูกศิษย์ของตัวเอง กำลังล้างจานอยู่ที่บ้านระหว่างไปเยี่ยมบ้านนักเรียนจนกระทั่งทราบว่า น้องเตย นอกจากจะล้างจานเท่าที่เห็นแล้ว ยังทำหน้าที่ซักผ้า ทำกับข้าว ให้นางเสา จินดาสี อายุ 68 ปี ย่าของน้องเตย อีกด้วย เนื่องจากย่าตาบอดทั้งสองข้างโดยหลังจากครูอุ้ม ได้นำคลิปไปลง Tik Tok ปรากฎว่า เพียงข้ามคืนมีคนเข้าไปดูและออกมาแสดงความคิดเห็นกว่า 10 ล้านวิว ต่อมาได้มีผู้ใจบุญสงสารและอยากช่วยบริจาคเป็นจำนวนมากรวมถึงหน่วยงานราชการทั้ง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พมจ.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ ได้ยื่นมือเข้ามาจะจัดสันงบประมาณเพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านให้
ร้านกิมหงวนเฟอร์นิเจอร์ ที่อยู่ติดกัน รับปากจะบริจาคอุปกรณ์ต่างๆ ให้ในครั้งเรือน สุดท้ายน้องเตย ได้รับการบริจาคเงินทั้งหมดร่วม 6 ล้านบาทล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการตาบอดของย่าน้องเตย ดีขึ้นหนึ่งข้าง พอมองเห็นเลือนราง แต่สภาพบ้านทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น ไม่มีการซ่อมแซมหรือปรับปรุงตามที่แต่ละหน่วยงานมาเสนอให้ตอนที่เป็นข่าว สอบถามครูอุ้ม ทราบว่า หลังจากเวลาผ่านไปได้ไปติดต่อ อบต.ในพื้นที่ทราบว่า เงินที่ พมจ.และ อบจ.สัญญาว่าจะให้ยังไม่ตกลงมา
แต่ถ้าได้เงินเมื่อไหร่จะทำการซ่อมแซมทันที แต่จะต้องซ่อมให้เสร็จภายใน 25 วัน ครูอุ้ม บอกด้วยว่า นอกจากนี้ยังพบปัญหาว่า บ้านที่น้องเตยอาศัยอยู่ กลายเป็นชื่อของหลานสามีของย่าน้องเตยไปแล้วเนื่องจาก นายเอียน ทุรารัมย์ อายุ 68 ปี สามีของนางเสา คือ ปู่ของน้องเตย ได้โอนบ้านและที่ดินให้กับหลานของนายเอียน ไปแล้วเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาครูอุ้ม กล่าวอีกว่า ตอนนี้พยายามหาซื้อที่ดินให้น้องเตย ในราคาที่เหมาะสมและให้อยู่ได้สองย่าหลาน แต่เกรงว่าจะทำเกินหน้าที่ จึงร้องขอให้ ผู้สื่อข่าวมาเป็นอีกหนึ่งแรงในการตัดสินใจ
ซึ่งหากได้ที่ที่เหมาะสม ราคาพอได้ ก็จะขอคำแนะนำกับผู้ที่เกี่ยวข้องจัดซื้อที่ดิน และเอางบประมาณราชการมาสร้าง หากไม่พอเอาเงินส่วนที่ได้รับบริจาคมาเสริม หลังจากนั้น น้องเตย และ ย่าน้อง คงจะอยู่อย่างมีความสุข ตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาคต่อไป