ทีมกู้ภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย นับร้อยคนร่วมกันลำเลียงศพออกจากดอยสูง พื้นที่รอยต่อบ้านพญาไพร-บ้านปางมะหัน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย หลังเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง กลุ่มขบวนการลำเลียงยาบ้าถูกวิสามัญ 15 ศพ ยึดยาบ้า 2,040,000 เม็ด เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และตรวจยึดของกลางไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ในเวลาประมาณ 14.00 น. จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าทำการเก็บกู้ศพ โดยมีหน่วยงานกู้ชีพกู้ภัยที่ร่วมลงพื้นที่ ได้แก่ มูลนิธิสยามเชียงราย (สำนักงานใหญ่) มูลนิธิสยามแม่สาย มูลนิธิสยามเชียงราย จุด อ.แม่จัน มูลนิธิสยามเชียงราย จุด อ.เชียงของ มูลนิธิแสงธรรมสาธารณกุศลเชียงรายสำนักงานใหญ่ มูลนิธิแสงธรรมสาธารณกุศลเชียงราย จุด อ.แม่จัน กู้ภัยอัมรินทร์ใต้ จุดแม่จัน และกู้ภัยทัพยั้งแม่จัน รวมเจ้าหน้าที่และอาสากู้ภัยประมาณ 80-100 คน
จุดปะทะเป็นพื้นที่ป่าสูงชัน ทีมกู้ภัยต้องขับรถเข้าไปจอด และเดินเท้าไปหาจุดที่เกิดการปะทะอีกประมาณ 1 กม. การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก เมื่อไปถึงพบศพกระจายเกลื่อนทั่วพื้นที่ บางศพร่วงลงไปในหุบเขา เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปเก็บกู้ศพขึ้นมา จากนั้นก็ใช้ผ้าห่อศพและนำไปผูกกับไม้เพื่อช่วยกันหามศพออกมาจากป่าอย่างทุลักทุเล ใช้เวลาในการปฏิบัติภารกิจตั้งแต่ลงพื้นที่จนถึงลำเลียงศพสุดท้ายมาขึ้นรถเมื่อเวลา 04.00 น. ใช้เวลาปฏิบัติงานประมาณ 14 ชั่วโมง
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ภารกิจการเก็บกู้ศพผู้ถูกวิสามัญจากคดียาเสพติดมักจะไม่มีญาติมาติดต่อรับศพ ภายหลังการชันสูตรศพเบื้องต้นแล้วแพทย์จะมอบศพทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำไปฝังไว้ที่สุสานบ้านหัวดอย ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย และรอจนคดีสิ้นสุด ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็จะทำพิธีล้างป่าช้า นำกระดูกไปทำพิธีฌาปณกิจ แล้วนำเถ้ากระดูกมาเก็บไว้ที่สุสานบ้านหัวดอยเช่นเดิม โดยจะเห็นว่าภารกิจของหน่วยกู้ภัยทุกหน่วยมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง แต่ที่ผ่านมาหน่วยกู้ภัยกลับเป็นหน่วยงานสุดท้ายที่จะถูกกล่าวถึง และไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ เท่าที่ควร ทุกวันนี้หลายหน่วยฯ ต้องทำงานด้วยความขาดแคลนทั้งเงินทุน และอุปกรณ์