เมื่อวันที่ 13 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2567 พ่อแม่ผู้ปกครองจะนำลูกหลานไปเที่ยวและหรือทำกิจกรรมวันเด็ก ตามสถานที่ต่างๆ แตกต่างจากหนุ่มน้อยรายหนึ่ง ที่ไม่เคยได้เที่ยววันเด็ก และไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ
เด็กหนุ่มรายนี้ชื่อ นายปกป้อง วงรักษา วัย 15 ปี ชาวบ้านห้วยเตยพัฒนา ต.สระตะเคียน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา แต่ละวันต้องไปทำงานรับจ้างยกกระสอบข้าวที่โรงสีของหมู่บ้านในช่วงเช้าทุกวัน เพราะเป็นอาชีพเดียวที่จะหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวที่มีอยู่รวม 6 ชีวิต ซึ่งคนในครอบครัวมีแค่ 2 คน ที่ร่างกายแข็งแรงปกติ ก็คือน้องชาย และพี่ชายที่ต้องออกไปตระเวนหารับจ้างทำงานนอกพื้นที่
ส่วนที่เหลืออีก 4 คน คือ ย่า วัย 80 กว่าปี ป่วยเป็นอัมพาตติดเตียงมานานนับ 10 ปีแล้ว นอกจากนี้ ยังมีลุงที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าที่ดูแลยาย แต่มาป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีก เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ต้องให้ลุงอีกคนที่เคยออกรับจ้างทำงานต่างพื้นที่ ต้องกลับมาคอยดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำคนป่วยทั้ง 2 คน และตอนนี้ก็เริ่มมีปัญหาแขนขวาอ่อนแรง
ส่วนที่เหลืออีกคนคือพ่อของน้องปกป้องที่ก็มีอาการป่วยทางสมองและผิดปกติทางสายตา แม้จะพอช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ก็ไม่สามารถทำงานหนักหาเงินมาช่วยครอบครัวได้ ทำให้ทั้งหมด 4 ชีวิต ต้องพึ่งเสาหลักอย่างน้องปกป้องเพียงคนเดียว
นายปกป้อง กล่าวว่า ทุกวันนี้ตัวเองต้องออกไปทำงานรับจ้างแบกข้าวสาร ตระเวนส่งให้กับลูกค้าตั้งแต่เช้ามืดจนถึงช่วงสาย ได้ค่าแรงวันละ 200 บาท และเป็นงานเพียงอย่างเดียวที่มีให้ทำ เพราะเถ้าแก่เมตตา อีกทั้งตัวเองเรียนไม่จบป.6 เพราะไม่มีใครหาเลี้ยงย่ากับพ่อที่พิการ
เดิมทีก่อนหน้านี้ เถ้าแก่โรงสีฝากให้ไปซ้อมมวยและขึ้นชก เพื่อหารายได้เพิ่ม แต่ก็ต้องเลิกไป เพราะลุงที่คอยช่วยดูแลย่าและพ่อต้องมาป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีกไปอีกคน ทำให้ตัวเองต้องมาคอยดูแลทั้ง 2 คนแทน จนไม่มีเวลาฝึกซ้อม
แม้ว่าตอนนี้ลุงอีกคนจะกลับมาดูแลย่าและลุงแทนแล้ว แต่ด้วยการที่หยุดซ้อมมวยมานาน ทำให้สภาพร่างกายไม่ได้เหมือนเดิม ตอนนี้เหลือเพียงแค่งานรับจ้างแบกข้าวสารแต่ก็ไม่ได้มีทุกวัน วันไหนไม่มีงาน ก็ไม่มีเงินมาให้ครอบครัว ทำให้ตัวเองไม่มีเวลาเที่ยวเล่นเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ
“หากถามว่าอยากเที่ยววันเด็กและอยากได้ของขวัญอะไร ก็ต้องบอกว่า อยากเที่ยว แต่ไม่มีโอกาส และไม่มีเวลาได้ไปเที่ยวเล่นสนุกสนานแบบนั้น เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แต่ของขวัญที่อยากได้ ก็คืออยากให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ลำบากมาก ตัวเองพอมีความรู้เรื่องการซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่บ้าง หากมีโอกาสก็อยากจะเปิดร้านซ่อมรถ เพื่อที่จะได้มีเงินเลี้ยงครอบครัวและจะได้ดูแลครอบครัวไปด้วย” นายปกป้อง กล่าว
ด้านนายจิระศักดิ์ จุลกระโทก อายุ 47 ปี เถ้าแก่โรงสีที่รับน้องปกป้องเข้าทำงาน บอกว่า รับน้องปกป้องเข้ามาทำงานตั้งแต่อยู่ชั้น ป.5 เนื่องจากเห็นว่า เป็นคนที่แข็งแรงและต้องการเงินไปดูแลครอบครัว โดยให้ช่วยแบกข้าวส่งให้กับลูกค้า
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา น้องเป็นคนขยันขันแข็ง กตัญญูหาเงินเลี้ยงครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ก็อยากให้น้องให้เรียนต่อ หรือมีอาชีพที่มั่นคง ดูแลครอบครัวได้ดีกว่านี้ หากเป็นไปได้อยากให้ความฝันน้อง ที่อยากจะเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์เป็นจริงเสียที