สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ว่าประชาชนในเมืองมาซิม ของจังหวัดซารังกานี บนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ พบกับปลาจำนวนมากว่ายเข้ามาเกยตื้น และตายจนเต็มชายหาด เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปลาที่จับได้นั้น มีน้ำหนักหลายตันเลยทีเดียว
ขณะที่ความรู้สึกของชาวบ้านนั้น บางส่วนตกใจและมีความตื่นเต้น โดยเชื่อว่า ปลาเหล่านี้อาจเป็นของขวัญปีใหม่จากพระผู้เป็นเจ้า อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายมีความวิตกกังวลว่า อาจเป็นสัญญาณ หรือลางบอกเหตุของภัยธรรมชาติหรือไม่
เนื่องจากย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา เทศบาลเมืองฮาโกดาเตะ ในจังหวัดฮอกไกโด ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น พบปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรลรวมกันหลายหมื่นตัว ว่ายเข้ามาที่ชายฝั่งของชายหาดแห่งหนึ่งในเมือง และตายเป็นแพลอยเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ตามแนวชายฝั่ง
ทั้งนี้ มีประชาชนจำนวนหนึ่งเข้าไปเก็บปลาเหล่านั้น ทั้งเพื่อนำมารับประทานเองและนำไปขาย อย่างไรก็ตาม ทางการออกประกาศเตือนประชาชนอย่าบริโภคปลาเหล่านั้น
ต่อมาเพียง 1 เดือน คือเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2567 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.6 แมกนิจูด มีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดอิชิกาวะ บนคาบสมุทรโนโตะ ทางตอนกลางของญี่ปุ่น ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างชัดเจน ว่าการตายของปลาจำนวนมากที่เกาะฮอกไกโด กับแผ่นดินไหวที่ภาคกลางของญี่ปุ่น มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่
ด้านผู้สันทัดกรณีในญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า การตายของปลาเหล่านี้ อาจเป็นผลของความพยายามหลบหนีปลาขนาดใหญ่กว่าด้วยความรีบเร่ง ส่งผลให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนเฉียบพลัน หรือฝูงปลาเหล่านี้กำลังอพยพ แต่กลับเข้าสู่กระแสน้ำเย็นอย่างกะทันหัน
นอกจากนั้น การลอยเกยตื้นและการตายของปลาจำนวนมากลักษณะนี้ จะส่งผลต่อระบบออกซิเจนของน้ำในบริเวณนั้น และระบบนิเวศโดยรอบด้วย มนุษย์จึงไม่ควรรับประทานปลาที่ตายเพราะปรากฏการณ์ลักษณะนี้